“Compound interest is the silent architect of wealth, patiently building its masterpiece with each passing moment. It rewards those who persevere, multiplying their efforts and dreams into a symphony of abundance that echoes through generations.”
.
เชื่อหรือไม่ การลงทุนช้าไป 5 ปี มีความเสียหายราว 3.6ล้าน !!!!
.
ก่อนอื่นใด ผมขออนุญาติกล่าวถึงประโยชน์ของดอกเบี้ยทบต้น หรือ compounding interest:
1.เร่งการเติบโต: ข้อได้เปรียบหลักของดอกเบี้ยทบต้นคือความสามารถในการเร่งการเติบโตของการลงทุนของคุณเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อคุณได้รับดอกเบี้ยจากการลงทุนครั้งแรก ดอกเบี้ยนั้นจะเพิ่มให้กับเงินต้นของคุณ ซึ่งจะสร้างฐานที่ใหญ่ขึ้นสำหรับการคำนวณดอกเบี้ยในอนาคต ผลกระทบแบบทบต้นนี้ช่วยให้เงินของคุณเติบโตอย่างทวีคูณ ซึ่งอาจสร้างผลตอบแทนจำนวนมากในระยะยาว
2.การสะสมความมั่งคั่ง: การลงทุนรายได้ของคุณซ้ำอย่างสม่ำเสมอ ดอกเบี้ยทบต้นจะช่วยให้สะสมความมั่งคั่งได้เร็วขึ้น แม้แต่การบริจาคเล็กน้อยที่ทำเป็นประจำก็สามารถรวมกันเป็นจำนวนเงินที่มีนัยสำคัญในช่วงเวลาที่ขยายออกไป การเริ่มต้นแต่เนิ่นๆ และปล่อยให้การลงทุนของคุณทบต้นไปเรื่อยๆ จะทำให้คุณมีโอกาสมากขึ้นในการสร้างความมั่งคั่งมากมายสำหรับอนาคต
3.มูลค่าตามเวลาของเงิน: ดอกเบี้ยทบต้นใช้ประโยชน์จากมูลค่าตามเวลาของเงิน ซึ่งตระหนักว่าเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่าจำนวนเดียวกันในอนาคต เนื่องจากศักยภาพในการสร้างรายได้ การลงทุนแต่เนิ่นๆ และปล่อยให้เงินทบต้น คุณจะควบคุมพลังของเวลาเพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งของคุณ
4.การสร้างรายได้แบบพาสซีฟ: ดอกเบี้ยทบต้นสามารถสร้างแหล่งที่มาของรายได้แบบพาสซีฟที่เชื่อถือได้ เมื่อการลงทุนของคุณเติบโตและทบต้น ดอกเบี้ยที่ได้รับสามารถสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอโดยไม่ต้องใช้ความพยายามหรือทำงานเพิ่มเติมในส่วนของคุณ รายได้แบบพาสซีฟนี้สามารถช่วยสนับสนุนเป้าหมายทางการเงินของคุณ ให้เงินสนับสนุนในช่วงเกษียณอายุ หรือแม้แต่สนับสนุนรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต้องการ
5.ความมั่นคงทางการเงินระยะยาว: การใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นจะช่วยรักษาอนาคตทางการเงินของคุณ การลงทุนซ้ำอย่างสม่ำเสมอและปล่อยให้การลงทุนของคุณเติบโต คุณจะสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถทนต่อภาวะเงินเฟ้อ ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด และความผันผวนทางเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยทบต้นช่วยให้คุณสร้างเครือข่ายความปลอดภัยและบรรลุความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
โปรดจำไว้ว่ากุญแจสำคัญในการใช้ประโยชน์จากผลประโยชน์ของดอกเบี้ยทบต้นอย่างเต็มที่คือการเริ่มต้นแต่เนิ่นๆ รักษาการลงทุนของคุณให้สม่ำเสมอ และปล่อยให้เวลาใช้เวทมนตร์ ยิ่งเงินของคุณรวมกันนานเท่าไหร่ รางวัลก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเคสในรูปภาพที่สอง
เพื่อแผนการเกษียณ ณ อายุ 55 ด้วยเงินใช้จ่ายเดือนละ 50,000 (ณ มูลค่าปัจจุบัน) อายุขัยคาดการ 85 ปี และผลตอบแทนหลังเกษียณที่ 3%
– นาย A เริ่มลงทุนตอนอายุ 25ปี ด้วยผลตอบแทนปีละ 6% ต้องเก็บเงินเพื่อลงทุนเดือนละ 44,500 บาท
– นาย B เริ่มลงทุนช้าหน่อย อายุ 30ปี ด้วยผลตอบแทนปีละ 6% ต้องเก็บเงินเพื่อลงทุนเดือนละ 65,300 บาท
ซึ่งมากกว่านาย A ถึงเดือนละ 21,200 บาท แล้วรวมๆมันเสียหายขนาดไหน
ผมคิดให้ดู
สูตรการคำนวนความเสียหาย
= ((เงินเก็บต่อเดือนนายB – นาย A) x 12 x อายุ30-55) – (เงินเก็บต่อเดือนนาย A x 12 x 5)
= ((65,300-44,500) x 12 x 25) – (44500 x12 x 5)
= 6,240,000 – 2,670,000
= 3,570,000
หรืออีกทางออกคือเป็นแบบนาย C (ที่เริ่มลงทุนอายุ 30 เหมือนนาย B) แต่สามารถทำผลตอบแทนต่อปี 8.4% …ดูเหมือนง่าย แต่!!! พอร์ทการลงทุนที่มีผลตอบแทน 8.4% มีความเสี่ยงและมูลค่าจะเหวี่ยงสูงมาก
ซึ่งมันอาจจะมีผลต่อสภาพจิตใจและทำให้เราทำงานหาเงินมาลงทุนได้น้อยลง และสุดท้ายสินทรัพย์ ณ เกษียณ จะมีมูลค่าน้อยกว่าที่คำนวนไว้
ดังนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดก็คือ นาย A ใช่มั้ยครับ… แล้วตอนนี้ทุกคนเป็นนาย A หรือยัง… แล้วสิ่งที่ขัดขวางการที่คุณจะเป็นนาย A อยู่คืออะไร… ถ้าสิ่งที่ขัดขวางเป็นความคิดของคุณเองที่ยังปิดกั้นหรือขัดขวาง หาหนังสือพัฒนาmindsetเรื่องการเงินอ่านครับ มีเยอะแยะ… หรือถ้าสิ่งที่ขัดขวางอยู่คือความรู้ หาหนังสือหรือคอร์สวางแผนการเงินและการลงทุนอ่านครับ แต่ถ้าไม่มีเวลา…ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญครับ… ที่ iMoneypartner มีผู้เชี่ยวชาญทุกด้านของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น #หุ้น#กองทุน#ประกันชีวิต#อสังหาริมทรัพย์ พร้อมเป็นที่ปรึกษาให้ทุกท่านครับ
#financialadvice#compoundinginterest | #imoneypartner X #apfinance